PAGCOR หวั่นการแบนพนันออนไลน์ ทำผู้เล่นหันไปหาเว็บเถื่อน
ฟิลิปปินส์มองว่าการควบคุมเข้มงวดน่าจะเป็นทางออกมากกว่า การแบนพนันออนไลน์โดยสิ้นเชิง
- มีการถกเถียงให้แบนการพนันออนไลน์อย่างเด็ดขาดในฟิลิปปินส์
- หน่วยงานกำกับดูแลการพนัน ไม่สนับสนุนให้แบนทั้งหมด หวั่นผู้เล่นหันไปหาเว็บเถื่อน ทำรัฐเสียรายได้
- สนับสนุนการควบคุมและการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้นแทน
ควบคุมเชิงรุก เน้นความปลอดภัย
อาเลฮานโดร เต็งโก ประธานและซีอีโอของ หน่วยงานกำกับดูแลการพนันของฟิลิปปินส์ (PAGCOR) กล่าวในงาน Light & Wonder iGaming Symposium เมื่อวันที่ 8 กันยายนว่า เห็นด้วยกับการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชน แต่ไม่เห็นด้วยกับการสั่งแบนโดยสิ้นเชิง เพราะจะเป็นการเปิดทางให้เว็บผิดกฎหมายแทรกตัวเข้ามาแทนที่ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รัฐบาลเสียรายได้จำนวนมาก
เต็งโกเสนอว่า ผู้ประกอบการควรพัฒนาระบบที่มีมาตรการป้องกันปัญหาอย่างชัดเจน ตั้งแต่การตรวจสอบตัวตนผู้เล่น (KYC) การป้องกันการฟอกเงิน (AML) ไปจนถึงการส่งเสริมการพนันอย่างมีความรับผิดชอบ
แนวทางการเติบโตของธุรกิจพนันออนไลน์
PAGCOR ชี้แจงว่า การปฏิรูปก่อนหน้านี้ เช่น การลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตลง 10% ในปี 2024 มีส่วนช่วยให้รายได้จากเกมออนไลน์ (electronic gaming GGR) เติบโตถึง 154.51 พันล้านเปโซฟิลิปปินส์ (ประมาณ 100,431 ล้านบาทไทย) เพิ่มขึ้นกว่า 165% จากปีก่อนหน้า
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 รายได้จากการเล่นพนันออนไลน์ของฟิลิปปินส์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แซงหน้ารายได้จากคาสิโนแบบดั้งเดิมไปแล้ว ถึง 21.47 พันล้านเปโซฟิลิปปินส์ หรือราว 14,000 ล้านบาทไทย
จุดยืนของ PAGCOR
PAGCOR เตรียมใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น เช่น การออกกฎโฆษณาที่เข้มงวดขึ้น การเปิดแพลตฟอร์ม “Pagcor Guarantee” ระบบตรวจสอบกิจกรรมผิดปกติด้วย AI และการให้บริการสายด่วนช่วยเหลือนักพนันตลอด 24 ชั่วโมง
ท่ามกลางกระแสกดดันให้ฟิลิปปินส์ควบคุมการพนันออนไลน์เข้มข้นขึ้น PAGCOR ยังคงยืนยันว่า แนวทางที่ดีที่สุดคือ การกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ไม่ใช่การสั่งห้ามโดยเด็ดขาด เพราะการแบนจะทำให้ผู้คนหันไปเล่นเว็บเถื่อนแทน
หลีกเลี่ยงเว็บพนันเถื่อน
การที่จะดูว่า เว็บพนันออนไลน์เว็บไหนไม่ใช่เว็บเถื่อน สามารถตรวจสอบได้จากใบอนุญาตคาสิโน หรือศึกษาจากรีวิวคาสิโนออนไลน์ เพื่อให้แน่ใจก่อนเล่น